กลายเป็นเรื่องจนได้สำหรับการประท้วงขับไล่ตระกูลเกลเซอร์ของสาวก “เรด เดวิลส์” ก่อนเกม “แดงเดือด” ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา การประท้วงเริ่มต้นมาจากความไม่พอใจตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของสโมสรชาวอเมริกัน ซึ่งสาเหตุมาจากการที่ “ปิศาจแดง” เข้าร่วมก่อตั้ง “ยูโรเปียน ซุปเปอร์ลีก” ตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว ตอนแรกบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สโมสรคงคาดกันว่าบรรดาแฟนบอลคงมาแค่ประท้วงตามปกติเท่านั้น คงไม่คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น แต่พอแฟนบอลรวมตัวมากขึ้นความฮึกเหิมก็มากขึ้น จนสุดท้ายก็บานปลายบุกเข้าไปสู่ข้างในสนาม ลงไปในสนามแข่งขัน ขึ้นไปบนอัฒจันทร์ เท่านั้นยังไม่พอยังบุกเข้าไปห้องแต่งตัวของนักเตะทั้งห้องทีมเหย้าและทีมเยือน เท่านั้นยังไม่พอส่วนหนึ่งก็มีการประท้วงขับไล่ล่าสุดมีทั้งการจุดพลุควันสีแดง, รวมตัวกันร้องเพลงไล่ และชูป้ายผ้า ที่ด้านนอกโลว์รี โฮเต็ล โรงแรมที่นักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด พักอยู่ ส่งผลให้รถบัสของทีมต้องดีเลย์ไปด้วย แถมยังมีข่าวออกมาแฟนบอลบางส่วนที่ได้เข้าไปในสนามได้ทำลายกล้องถ่ายทอดสดอีกด้วย เท่านั้นไม่พอยังขว้างขวดเบียร์กับพลุไฟใส่คอมเมนเตเตอร์ในการถ่ายทอดสดที่เพรสบ็อกซ์บนอัฒจันทร์ด้วย จนทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาจัดการขั้นเด็ดขาดกับบรรดาแฟนบอล “ปิศาจแดง” จนทำให้มีการปะทะกันเกิดขึ้นบ้างเล็กน้อย จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทาง 2 สโมสรและผู้ตัดสินได้ประชุมกัน ก่อนจะตัดสินใจเลื่อนการแข่งขันออกไปก่อน เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยทั้งในสนามและนอกสนาม โดยเฉพาะในสนามไม่รู้ว่าบรรดาแฟนบอลที่บุกเข้าไปได้พกอะไรเข้าไปบ้าง ของอันตรายต่างๆ หรือแม้กระทั่งเศษเหรียญที่อยู่ในสนามหากตกอยู่ก็สร้างความอันตรายให้กับ นักเตะที่กำลังแข่งขันอยู่ด้วยเช่นกัน จากการเลื่อนเกมดังกล่าวทำให้ทั้งสองทีมต้องปวดหัวตึ้บเพราะโปรแกรมที่มีอยู่ก็แน่นเอี้ยดแล้ว ไม่รู้จะเอาโปรแกรมไปยัดไว้ตรงไหน แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่เท่าไรเพราะแม้ไม่ได้ แชมป์แต่ก็ได้ไปลุยแชมเปียนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า แต่ที่เครียดก็คือ ลิเวอร์พูล ที่กำลังลุ้นท็อปโฟร์ ยิ่งสถานการณ์ตอนนี้ตามหลังอยู่พอสมควร พอตามหลังมากๆเข้าก็น่าจะมีความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ แถมถ้าโปรแกรมไปอัดแน่นก็จะเสียเปรียบไปอีก งานนี้กลายเป็น